สถานีไฟฟ้าย่อยคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

electrical-substation

สถานีไฟฟ้าย่อยคืออะไร?

สถานีย่อยเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการควบคุมพลังงานไฟฟ้าและเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้าจากสูงไปต่ำหรือย้อนกลับรวมทั้งเปลี่ยนความถี่ไฟฟ้า สถานีย่อยอาจมีหม้อแปลงสำหรับเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้า เบรกเกอร์วงจรเพื่อตัดพลังงานไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ อุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่าเพื่อเปลี่ยนทิศทางไฟกระชากจากฟ้าผ่าลงดิน และอื่นๆ จากนั้นจะแปลงเป็นแรงดันไฟฟ้าต่ำตามลำดับของสถานีไฟฟ้าแรงสูงพิเศษ สถานีไฟฟ้าย่อยหลัก สถานีไฟฟ้าย่อยรอง สถานีไฟฟ้าจำหน่าย และสุดท้ายคือโรงงานหรือบ้านเรือน

ส่วนประกอบหลักของสถานีไฟฟ้าย่อย

  • หม้อแปลง: อุปกรณ์หลักที่ใช้ในการเพิ่มหรือลดแรงดันไฟฟ้า
  • สวิตช์เกียร์: อุปกรณ์ที่ใช้ในการเปิด-ปิดและควบคุมการไหลของกระแสไฟฟ้า
  • ตัวป้องกัน: อุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันระบบไฟฟ้าจากความผิดปกติ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร
  • สายส่ง: สายไฟที่ใช้ในการส่งพลังงานไฟฟ้าจากสถานีไฟฟ้าย่อยไปยังผู้บริโภค

ประเภทของสถานีไฟฟ้าย่อย

  • สถานีไฟฟ้าย่อยหลัก: มีขนาดใหญ่ รับพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งผลิตหลัก และกระจายพลังงานไปยังสถานีไฟฟ้าย่อยรอง
  • สถานีไฟฟ้าย่อยรอง: มีขนาดเล็กกว่า รับพลังงานไฟฟ้าจากสถานีไฟฟ้าย่อยหลัก และกระจายพลังงานไปยังผู้บริโภคโดยตรง

ประโยชน์ของสถานีไฟฟ้าย่อย

สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) มีบทบาทสำคัญในระบบการจ่ายไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้การจ่ายไฟฟ้ามีความเสถียรและปลอดภัยสำหรับการใช้งานในภาคต่างๆ ประโยชน์หลักของสถานีไฟฟ้าย่อยประกอบด้วย:

  1. การลดแรงดันไฟฟ้า: สถานีไฟฟ้าย่อยช่วยลดแรงดันไฟฟ้าจากระบบส่งไฟฟ้า (ที่มักจะมีแรงดันสูง) ลงเป็นแรงดันที่เหมาะสมกับการใช้งานในภาคการผลิตและการใช้ไฟฟ้า เช่น จากแรงดันไฟฟ้าสูง (500 kV) ลงมาเป็นแรงดันที่ต่ำกว่า (เช่น 11 kV, 22 kV) สำหรับการจ่ายให้แก่ลูกค้าภาคบ้านหรืออุตสาหกรรม
  2. การกระจายไฟฟ้า: สถานีไฟฟ้าย่อยช่วยกระจายกระแสไฟฟ้าไปยังพื้นที่ต่างๆ ภายในเมืองหรือพื้นที่ห่างไกล โดยที่ไฟฟ้าที่ถูกแปลงแรงดันแล้วจะถูกส่งผ่านสายไฟฟ้าไปยังจุดต่างๆ เพื่อให้บริการไฟฟ้าตามความต้องการของผู้ใช้
  3. การควบคุมและจัดการไฟฟ้า: สถานีไฟฟ้าย่อยช่วยในการควบคุมการจ่ายไฟฟ้า เช่น การเปิดหรือปิดวงจรไฟฟ้าในกรณีที่มีเหตุการณ์ผิดปกติหรือการบำรุงรักษา ทำให้การจ่ายไฟฟ้าไม่ขัดข้อง
  4. การป้องกันความเสียหาย: สถานีไฟฟ้าย่อยมักมีอุปกรณ์ป้องกัน เช่น เซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายจากการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือความผิดปกติของระบบไฟฟ้า เช่น กระแสเกินหรือแรงดันเกิน
  5. เพิ่มความเสถียรของระบบไฟฟ้า: การตั้งสถานีไฟฟ้าย่อยที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าทั่วไปมีความเสถียรมากขึ้นและลดปัญหาการขัดข้องหรือไฟฟ้าดับในพื้นที่บางแห่ง
  6. การเชื่อมโยงกับระบบไฟฟ้าทั้งประเทศ: สถานีไฟฟ้าย่อยยังเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่เข้ากับระบบไฟฟ้าภายในประเทศหรือต่างประเทศ เพื่อเสริมความมั่นคงในการจ่ายไฟฟ้าในกรณีที่เกิดปัญหาหรือการขาดแคลนไฟฟ้าในบางพื้นที่

สรุปแล้ว สถานีไฟฟ้าย่อยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการกระจายไฟฟ้าและควบคุมการจ่ายไฟฟ้าให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวันและการดำเนินงานของอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างมาก.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *