แรงดันไฟฟ้าอุตสาหกรรมคืออะไร?
แรงดันไฟฟ้าอุตสาหกรรมเป็นระดับแรงดันที่ใช้ในการจ่ายพลังงานให้กับเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงาน ซึ่งแตกต่างจากแรงดันไฟฟ้าในที่อยู่อาศัย โดยระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรมมักใช้แรงดันที่สูงขึ้นเพื่อรองรับโหลดที่มากกว่าและเพื่อให้การทำงานของอุปกรณ์มีประสิทธิภาพสูงสุด

หัวข้อในบทความนี้
ประเภทของแรงดันไฟฟ้าอุตสาหกรรม
1. แรงดันไฟฟ้าต่ำ (Low Voltage – LV)
- ใช้สำหรับเครื่องจักรทั่วไปและระบบไฟฟ้าภายในโรงงาน
- ตัวอย่างแรงดัน: 220V, 380V, 415V
- ใช้กับ: มอเตอร์ขนาดเล็ก, ระบบแสงสว่าง, อุปกรณ์ไฟฟ้าโรงงาน
2. แรงดันไฟฟ้าปานกลาง (Medium Voltage – MV)
- ใช้สำหรับระบบจ่ายไฟภายในโรงงานขนาดใหญ่
- ตัวอย่างแรงดัน: 1kV – 35kV
- ใช้กับ: มอเตอร์ขนาดใหญ่, ระบบหม้อแปลงไฟฟ้า, ระบบส่งกำลัง
3. แรงดันไฟฟ้าสูง (High Voltage – HV)
- ใช้สำหรับการส่งจ่ายไฟจากโรงไฟฟ้าไปยังโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
- ตัวอย่างแรงดัน: 35kV – 230kV หรือสูงกว่า
- ใช้กับ: โรงไฟฟ้า, ระบบส่งจ่ายไฟฟ้าแรงสูง, โรงงานอุตสาหกรรมหนัก
มาตรฐานแรงดันไฟฟ้าในแต่ละประเทศ
ประเทศ/ภูมิภาค | 1 เฟส (V) | 3 เฟส (V) |
---|---|---|
ไทย (TH) | 220V | 380V |
ยุโรป (EU) | 230V | 400V – 415V |
อเมริกา (US) | 120V | 208V / 480V |
ญี่ปุ่น (JP) | 100V / 200V | 200V / 400V |
จีน (CN) | 220V | 380V |
การเลือกแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรม
การเลือกแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนพลังงาน ควรคำนึงถึง:
- ประเภทของเครื่องจักรและกำลังไฟที่ต้องใช้
- ความปลอดภัยและมาตรฐานไฟฟ้าในแต่ละประเทศ
- ความเสถียรของระบบไฟฟ้าและการป้องกันไฟตก ไฟกระชาก

การประหยัดไฟฟ้าในโรงงาน
การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยั่งยืนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมได้ วิธีการที่สามารถนำไปใช้ได้มีดังนี้:
1. ใช้ระบบควบคุมพลังงานอัตโนมัติ
การติดตั้งระบบ Energy Management System (EMS) ช่วยให้สามารถตรวจสอบและควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง (High-Efficiency Motors)
มอเตอร์ที่มี IE3 หรือ IE4 สามารถช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้มากกว่ามอเตอร์ทั่วไป
3. ปรับปรุงระบบไฟฟ้า 3 เฟสให้เหมาะสม
การปรับปรุง Power Factor โดยใช้ตัวปรับค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ (Power Factor Correction) สามารถลดการสูญเสียพลังงานและค่าไฟฟ้าได้
4. ใช้แสงสว่าง LED และเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
ไฟ LED ใช้พลังงานน้อยกว่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าไฟแบบเดิม ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
5. บำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและเครื่องจักรเป็นประจำช่วยลดการสูญเสียพลังงานที่เกิดจากความเสื่อมของอุปกรณ์