สัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) คืออะไร?
สัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ Electromagnetic Interference (EMI) คือการรบกวนของสัญญาณไฟฟ้าและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และระบบไฟฟ้าต่างๆ สัญญาณเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จากแหล่งกำเนิดธรรมชาติ เช่น ฟ้าผ่า หรือแหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และเครื่องจักรอุตสาหกรรม

แหล่งที่มาของ EMI
- แหล่งกำเนิดจากธรรมชาติ
- ฟ้าผ่า
- พายุแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์
- ปรากฏการณ์ไฟฟ้าสถิตในบรรยากาศ
- แหล่งกำเนิดจากมนุษย์
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น วิทยุ โทรทัศน์
- อุปกรณ์ไร้สาย เช่น Wi-Fi, Bluetooth
- เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม
- สายไฟแรงสูง และระบบส่งพลังงาน
ผลกระทบของ EMI
สัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น:
- การทำงานผิดพลาดของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- การสูญเสียข้อมูลหรือสัญญาณ
- เสียงรบกวนในระบบเสียง
- ความล้มเหลวของระบบควบคุมอัตโนมัติ
- อันตรายต่อระบบการแพทย์หรือการบิน

วิธีป้องกันสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า
- การใช้ Shielding (การหุ้มป้องกัน)
- ใช้วัสดุที่ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น ทองแดง หรืออลูมิเนียม เพื่อหุ้มอุปกรณ์
- การกราวด์ (Grounding) อย่างถูกต้อง
- ช่วยระบายกระแสไฟฟ้าที่ไม่พึงประสงค์ออกจากระบบ ลดโอกาสเกิด EMI
- การใช้ตัวกรอง EMI (EMI Filters)
- ติดตั้งในสายไฟหรือวงจรเพื่อลดสัญญาณรบกวน
- การวางสายไฟอย่างเหมาะสม
- แยกสายสัญญาณอ่อนออกจากสายพลังงาน และหลีกเลี่ยงการวางสายขนานกัน
- เลือกใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการรับรอง EMC (Electromagnetic Compatibility)
- อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสามารถทนทานต่อสัญญาณรบกวนได้ดี
ตัวอย่างปัญหา: สัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าในอุตสาหกรรม
กรณีศึกษา 1: สัญญาณรบกวนในเครื่องจักรควบคุมด้วย PLC
ปัญหา:
ในสายการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมอัตโนมัติ พบว่า เครื่องจักรที่ควบคุมด้วย PLC (Programmable Logic Controller) มีอาการค้างหรือหยุดทำงานเป็นช่วง ๆ โดยไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า
สาเหตุ:
- มี สัญญาณรบกวนจากมอเตอร์อินดักชัน หรืออุปกรณ์ที่ใช้กระแสสูงในสายการผลิตเดียวกัน
- สายสัญญาณของ PLC วางขนานกับสายพาวเวอร์แรงสูง
- ไม่มีการ shielding หรือกราวด์ที่เหมาะสม
วิธีแก้ไข:
- แยกสายควบคุม (control signal) ออกจากสายไฟพาวเวอร์แรงสูง
- ใช้ สาย Shielded Cable (เช่น KEIFLEX-Braided Shield) เพื่อป้องกัน EMI
- เพิ่มตัวกรอง EMI (EMI Filter) ที่อุปกรณ์มอเตอร์หรือแหล่งกำเนิดสัญญาณรบกวน
- ตรวจสอบและติดตั้งระบบกราวด์อย่างถูกต้อง
กรณีศึกษา 2: ระบบเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิอ่านค่าผิดพลาด
ปัญหา:
เซ็นเซอร์ RTD หรือ Thermocouple ในเตาอบอุตสาหกรรมแสดงค่าอุณหภูมิผิดพลาด หรือสวิงขึ้นลงรวดเร็วโดยไม่มีเหตุผล
สาเหตุ:
- มี EMI จากอินเวอร์เตอร์ (VFD) ที่ใช้ควบคุมมอเตอร์ใกล้เคียง
- ใช้สายธรรมดา (ไม่มี shielding) สำหรับส่งสัญญาณอุณหภูมิที่ไวต่อสัญญาณรบกวน
วิธีแก้ไข:
- เปลี่ยนมาใช้สายสัญญาณที่มีฉนวนป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Shielded Twisted Pair Cable)
- เดินสายให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์กำลังหรืออินเวอร์เตอร์
- ติดตั้งฟิลเตอร์ที่อินเวอร์เตอร์เพื่อลด EMI ที่แผ่ออกมา
กรณีศึกษา 3: ระบบเครือข่ายอุตสาหกรรม (Industrial Ethernet) ไม่เสถียร
ปัญหา:
ระบบ SCADA หรือระบบเครือข่ายควบคุมโรงงานไม่สามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง เช่น เกิด packet loss หรือ delay สูง
สาเหตุ:
- สัญญาณรบกวนจากสายไฟพาวเวอร์แรงสูงที่วิ่งใกล้กับสาย LAN
- ไม่มีการป้องกัน EMI สำหรับอุปกรณ์เครือข่าย
วิธีแก้ไข:
- ใช้สาย LAN แบบ STP (Shielded Twisted Pair) หรือใช้สายไฟเบอร์ออปติก
- ติดตั้งอุปกรณ์ network ในตู้ควบคุมที่มีการป้องกัน EMI
- ตรวจสอบและปรับระบบสายดินของทั้งระบบให้เหมาะสม

สรุป
EMI หรือสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้า การป้องกันและลดผลกระทบจาก EMI จึงมีความสำคัญต่อความเสถียรของระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน โรงงาน หรือสำนักงาน การทำความเข้าใจถึงที่มา ผลกระทบ และวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ